Knowledge
เด็กเปรียบเสมือนผ้าขาวหลากสี
3 years ago 17662สุรศักดิ์ แซ่ลิ้ม
ในอดีตเรามักจะเห็นการเปรียบเด็กว่าเป็นผ้าขาวที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง และพร้อมให้ผู้ใหญ่แต่งแต้มสีสันลงไปในผ้าผืนนั้นผ่านการอบรมสั่งสอนภายในครอบครัว การศึกษา หรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่จะหล่อหลอมให้เด็กเติบโต แต่บางครั้งเราก็อาจจะเผลอคิดไปเองว่าเด็กต้องเป็นผ้าขาวเสมอไป และไม่ยอมรับในสิ่งที่เด็กต้องการ เพราะเห็นว่าเด็กกลุ่มนั้นยังคงเป็น “ผ้าขาว” อยู่ และไร้เดียงสาเกินกว่าจะตัดสินใจอะไรได้
เด็กบางกลุ่มจึงต้องจำใจเรียนหรือทำในสิ่งที่ตนเองไม่ถนัด หรือไม่ได้อยากทำตั้งแต่แรก เพียงเพราะตามใจผู้อื่นที่พยายาม “แต่งแต้ม” ให้เรียนในสิ่งที่ตนต้องการ แต่ตัวเด็กเองไม่ได้ต้องการที่จะเรียน ท้ายที่สุดแล้วผลเสียจะเกิดขึ้นกับตัวเด็กเองมากที่สุดทั้งด้านร่างกายและจิตใจ และกลายเป็นเพียงผ้าผืนหนึ่งที่สีสันผิดเพี้ยน เพียงเพราะเกิดจากการ “แต่งแต้ม” โดยไม่ได้คำนึงถึงตัวเด็กเลย
แท้ที่จริงแล้ว เด็กเปรียบเสมือน “ผ้าหลากสี” ที่แต่ละผืนก็มีจุดเด่นและความสามารถที่หลากหลายนับไม่ถ้วน เช่น เด็กบางคนอาจมีพรสวรรค์ในด้านใดด้านหนึ่ง หรือมีความกล้าแสดงออก เป็นต้น ความสามารถที่หลากหลายเหล่านี้เปรียบเสมือนสีของผ้าที่ติดตัวมาตั้งแต่กำเนิด และสีนี้จะเปล่งประกายขึ้นเรื่อย ๆ ผ่านการสนับสนุนของคนในครอบครัว ครูในโรงเรียน รวมถึงการเปิดโอกาสต่าง ๆ ให้เด็กคนหนึ่งได้พบเจอในชีวิตการเป็นนักเรียน ไม่ปิดกั้นโอกาสในการทำสิ่งที่ชอบ ตราบใดที่ไม่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น การสนับสนุนเหล่านี้เองจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถทักษะของเด็ก และช่วยให้มีความสุขในการเรียนหรือการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เด็กชอบ เมื่อเด็กเรียนหรือทำในสิ่งที่เขาชอบ นั่นถือเป็นโอกาสทองที่เด็กจะเกิดการเรียนรู้ได้ดีที่สุด องค์ความรู้นั้นก็จะติดตัวไปจนพวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในสังคม
เมื่อเด็กเปรียบเสมือนผ้าหลากสี ผู้ปกครองและครูจึงควรช่วยกันหาว่าความสามารถที่แท้จริงของเด็กคืออะไร และสนับสนุนให้พวกเขาได้เรียนหรือทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดและชอบอย่างเต็มที่ แต่อย่า “ทาสีทับ” จนความฝันหรือความสามารถเหล่านั้นผิดเพี้ยนหรือถูกกลบหายไป เพราะผลเสียจะตกอยู่กับเด็กที่เรารัก หากจะแก้ไขก็อาจสายเกินไป